ประกันโรคร้ายแรงกับประกันมะเร็ง เหมือนกันหรือไม่ ?

"ไม่เหมือนครับ"

เพราะ ประกันโรคร้ายแรง ปัจจุบัน จะแบ่งกลุ่มความคุ้มครองเป็น 6 กลุ่มโรค และ หลายๆโรค ในยุคปัจจุบัน มีโอกาสเกิดได้กับทุกคน

  1. กลุ่มโรคมะเร็ง และ เนื้องอก เช่น โรคมะเร็ง...
  2. กลุ่มโรคหัวใจระบบการหายใจ และ ระบบการไหลเวียนโลหิต เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ, โรคกล้ามเนื้อหัวใจ...
  3. กลุ่มโรคหลอดเลือดสมอง ระบบประสาทและกล้ามเนื้อ เช่น โรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง, โรคหลอดเลือดสมองแตก...
  4. กลุ่มโรคอวัยวะและระบบการทำงานที่สำคัญของร่างกาย เช่น โรคไตวายเรื้อรัง, การผ่าตัดไตออกหนึ่งข้าง...
  5. กลุ่มโรคภาวะติดเชื้อ การบาดเจ็บและภาวะทุพพลภาพ เช่น โรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตา, ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง...
  6. กลุ่มโรคร้ายแรงสำหรับผู้เยาว์ (คุ้มครองผู้เอาประกันภัยถึงอายุ 16ปี) เช่น โรคเบาหวานชนิดที่หนึ่ง , ไข้รูมาติกที่ทำให้หัวใจผิดปกติ...

ทั้ง 6 กลุ่ม จะแบ่งเป็น คุ้มครองระดับต้นถึงปานกลาง รวม 18 โรค/การรักษา และ ระดับรุนแรง รวม 44 โรค/การรักษา

แต่ ประกันมะเร็งจะคุ้มครองเฉพาะโรคมะเร็งอย่างเดียว ดังนั้นก่อนซื้อประกันต้องดูให้ดีว่าคุ้มครองเฉพาะมะเร็งอย่างเดียว หรือ โรคร้ายแรงหลายๆโรค

มีประกันสุขภาพค่ารักษาพยาบาล , ประกันสังคม , ใช้บัตรทอง อยู่แล้ว จำเป็นต้องซื้อประกันโรคร้ายแรงหรือไม่ ?

"จำเป็น"

เพราะนอกเหนือจากค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลแล้ว  

สิ่งที่หลาย ๆ คนอาจลืมนึกถึงก็คือ ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ตามมาหลังการรักษาตัวในโรงพยาบาลจบลง เช่น ค่าตรวจติดตามต่อเนื่อง ค่าใช้จ่ายเพื่อพักฟื้นหรือบำบัดฟื้นฟูนอกโรงพยาบาล ค่าคนดูแลและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ต้องใช้เมื่อกลับมารักษาตัวที่บ้าน รวมถึงค่าใช้จ่ายในช่วงที่ขาดรายได้ (อาจจำเป็นต้องหยุดทำงาน ทำให้ขาดรายได้) ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้ควรมีสำรองไว้ประมาณปีละ 600,000 - 1,000,000 บาท  จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ควรทำประกันโรคร้ายแรง เพราะประกันโรคร้ายแรง จะจ่ายเงินก้อนทันทีเมื่อตรวจเจอ ไม่ต้องใช้ใบเสร็จรับเงิน ใช้เพียงผลตรวจทางการแพทย์ เท่านั้น

แนะนำ ทุนประกันโรคร้ายแรงขั้นต่ำ 3 ล้านบาทขึ้นไป เพื่อเป็นแผนรับมือกับความเสี่ยงในอนาคตให้ครอบคลุม และเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต 

ถ้ามีประกันสุขภาพค่ารักษาพยาบาล อยู่แล้ว การมาซื้อประกันโรคร้ายแรงจะซ้ำซ้อน หรือไม่ ?

"ไม่ซ้ำซ้อน"

เพราะ ประกันสุขภาพแบบค่ารักษาพยาบาล กรณีรักษาโรคร้ายแรง เบิกได้ตามค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้น  ส่วนประกันโรคร้ายแรง จะจ่ายเป็นเงินค่าชดเชยมาให้ตามวงเงินที่ซื้อโดยไม่สนใจใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลเลย

ดังนั้นการซื้อประกันโรคร้ายแรง ก็เหมือนการซื้อเพื่อเพิ่มวงเงินสำหรับการรักษาโรคร้ายแรงซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก  เงินชดเชยที่ได้จากประกันโรคร้ายแรงเราก็อาจเก็บไว้ใช้รักษาตัวกรณีพักฟื้นที่บ้าน , รักษาแพทย์ทางเลือก หรือ กรณีขาดรายได้ ซึ่งประกันสุขภาพไม่สามารถเบิกได้

การทำประกันโรคร้ายแรงเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์

การทำประกันโรคร้ายแรงเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เป็นการโอนย้ายความเสี่ยงให้บริษัทประกัน รับผิดชอบ 

โรคร้ายแรงมักมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่สูงมาก การมีประกันช่วยคุ้มครองภาระการเงินและให้ความมั่นใจในการรักษาได้เต็มที่ ทำให้ไม่กระทบกับการเงินของครอบครัว

และสำหรับ แบบประกันโรคร้ายแรง เอไอเอ ซีไอ ซุปเปอร์แคร์ การจ่ายเบี้ยประกันก็เสมือนกับออมเงินไปในตัวด้วย เพราะ มีมูลค่าเงินสด ซึ่งถ้าไม่มีเคลมเลย เราก็สามารถเวนคืน นำมูลค่าเงินสดออกมาใช้จ่ายได้ในอนาคต

แต่ถ้าด้วย งบประมาณที่เท่ากัน แต่ต้องการความคุ้มครองที่คุ้มค่า เคลมได้หลายๆรอบ  ก็แนะนำ AIA MULTI-PAY CI PLUS เจอจ่ายหลายจบ ครบถึงการดูแล เคลมได้สูงสุด 1,000% พร้อมคุ้มครองกรณีเสียชีวิตด้วย 

ถ้าเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นมาจริงๆ คงไม่คิดว่า การทำประกันโรคร้ายแรงเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ 

ทำประกันสุขภาพก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำประกันโรคร้ายแรง

การเป็นโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง มาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่สูงมาก และ การพักรักษาตัวก็อาจยาวนาน และ บางกรณี ก็ส่งผลถึงเรื่องการงานที่ทำอยู่ อาจถูกเลิกจ้างงาน ทำให้ขาดรายได้

ประกันโรคร้ายแรง จ่ายเงินก้อนให้ ไม่สนใจใบเสร็จรับเงิน ทำให้ช่วยเสริม สภาพคล่องทางการเงิน  และ ทำให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกิดมากขึ้น เช่น ค่าใช้จ่ายการรักษาระยะยาว ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตประจำวัน เป็นต้น

ในขณะที่ ประกันสุขภาพทั่วไปอาจไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดโดยเฉพาะกรณีที่เป็นโรคร้ายแรง เนื่องจากค่าใช้จ่ายสูง และจ่ายค่าสินไหม ตามใบเสร็จรับเงินเท่านั้น

เบี้ยประกันแพงและไม่คุ้มค่า
การเลือกแผนประกันที่เหมาะสมกับงบประมาณ และความต้องการของคุณเป็นสิ่งสำคัญ เบี้ยประกันอาจดูแพงในระยะสั้น แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์จริง การมีประกันจะช่วยลดภาระทางการเงิน และช่วยให้คุณได้รับการรักษาที่ดีที่สุด

การมีประกันโรคร้ายแรงและประกันมะเร็งเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และช่วยลดภาระทางการเงินของครอบครัวในยามจำเป็นฉุกเฉิน
เอาเงินมาดูแลสุขภาพให้แข็งแรงดีกว่า ได้ประโยชน์มากกว่าเอาไปจ่ายเบี้ยประกัน

การดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ ความแน่นอน ก็คือ ความไม่แน่นอน

เพราะโรคร้ายแรง บางกรณีก็ไม่ได้มาจากสุขภาพที่อ่อนแอ แต่มาจากปัจจัยภายนอก เช่น อากาศ ฝุ่น PM 2.5 เป็นต้น 

มาจากนิสัย และพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น ความเครียด , การนอนน้อยพักผ่อนไม่เพียงพอ , การทานอาหาร , ดื่มแอลกอฮอร์ สูบบุหรี เป็นต้น 

โรคร้ายแรง เกิดได้กับทุกคน ไม่ระบุเพศ ไม่ระบุเวลา ไม่ระบุความแข็งแรงของสุขภาพ  ดังนั้น การทำประกันเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารการเงินของเรา ด้วยการโอนย้ายความเสี่ยง หรือ ทำประกันไว้ เผื่อเกิดเหตุร้ายเป็นโรคร้ายแรงขึ้นมาจริงๆ อย่างน้อยก็มีประกันมารับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้

เสมือนการทำประกันรถยนต์ที่เราก็ขับรถไม่เคยเฉี่ยวชนเลย แต่ก็ยังซื้อประกันรถติดไว้ทุกปี 

ฉันมีสุขภาพดี ไม่จำเป็นต้องทำประกันโรคร้ายแรง

ความแน่นอน คือ ความไม่แน่นอน

แม้ว่าคุณจะมีสุขภาพดีในขณะนี้ แต่โรคร้ายแรงสามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิด และ บางกรณีก็ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค แต่เป็นโรคที่เกิดจากนิสัยหรือพฤติกรรมการดำเนินชีวิต

การทำประกันโรคร้ายแรงเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต ช่วยคุ้มครองคุณจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะการทำประกันโรคร้ายแรงตลอดชีพ AIA CI Supercare จ่ายเบี้ยคงที่แค่ 10 หรือ 20 ปี ก็คุ้มครองตลอดชีพ แถมถ้าไม่มีการเคลม ก็มีมูลค่าเงินสดเวนคืนได้ แถมคุ้มครองกรณีเสียชีวิตด้วย

หรือถ้าต้องการความคุ้มครองสูงเคลมซ้ำได้หลายรอบ แนะนำ AIA MULTI-PAY CI PLUS  เคลมสูงสุดได้ 1,000% แถมคุ้มครองกรณีเสียชีวิตด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy